สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีความแปรปรวนของชั้นดิน 📌ทำให้ลักษณะพื้นที่ไม่เหมือนกับพื้นที่ทั่วไป 👉เช่น ชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง 🎯เป็นต้น จากลักษณะของชั้นดินนี้ อาจทำให้ฐานรากพังได้ 🌏ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่การออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น 👉จึงต้องจัดให้มีการเจาะสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม 🌏เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🦖เมื่อทราบข้อมูลดินบางส่วนแล้ว จะต้องมีการวางแผนการสำรวจดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 🌏เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ต่าง ๆ 🥇จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกประเภท🌏
(https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/450584084_972429771345124_3689708231028953902_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-7&_nc_sid=127cfc&_nc_ohc=Zsz-GXRQtF8Q7kNvgEay1Lv&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=00_AYDmOSBkMvs6rRDNE2t46707h9ftamJ4Ii7pcwNabf1Lxw&oe=66A5626F)
โครงสร้างต่าง ๆ 🎯จะมีความแข็งแรง ต้องมีฐานรากที่มั่นคงรองรับ 🎯ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ✨ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากได้อย่างปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม 👉สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานสำรวจขึ้นอยู่กับลักษณะโครงการ 🎯และสภาพของชั้นดิน 👉โดยวิศวกรออกแบบควรกำหนดรายละเอียดการสำรวจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์และออกแบบ 🌏บริการทดสอบดิน (https://groups.google.com/g/comp.security.ssh/c/w39XNN-WJcI)และจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ✅
การสำรวจดินเบื้องต้น 📢เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย 🦖เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน 🦖ระดับน้ำใต้ดิน อันจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนและเตรียมเครื่องมือได้อย่างเหมาะสม 👉ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนเจาะดินอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเจาะสารวจชั้นดิน 🛒โดยทั่วไปจะระบุ ตำแหน่งเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมสำรวจ🥇 การทดสอบด้านใดบ้าง 🥇โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับทำข้อมูลความแข็งแรงของดินและข้อมูลเพื่อใช้คำนวณหาการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🛒
🥇🛒📌การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ🥇🛒📌
⚡1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) ✅เป็นดินที่ถูกกระทบกระเทือน 🎯จนทำให้โครงสร้างและการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนแปลง 👉หรือสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากวิธีการเก็บตัวอย่างดิน🦖 การขนส่ง และการเก็บรักษาตัวอย่างดิน ✨ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่ได้จากการทดสอบด้วยสว่านมือ 🎯และตัวอย่างดินที่ตอกด้วยกระบอกผ่า ตัวอย่างดินเหล่านี้ไม่สามารถใช้ทดสอบกำลังรับน้ำหนักได้ 🦖เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทกและการอัด 👉ซึ่งโครงสร้างดินเปลี่ยนแปลง แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้📌
🎯2. ดินที่ไม่ถูกรบกวน (Undisturbed Sample) 🛒เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม ✨โดยพยายามให้โครงสร้างและองค์ประกอบของดินยังคงเหมือนเดิมตามธรรมชาติ 🥇ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 📌ถือว่าเป็นตัวอย่างดินที่มีคุณภาพดีที่สุด ✨สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการได้เกือบทุกประเภท ⚡รวมถึงการทดสอบความแข็งแรงและการรับน้ำหนักของดิน🦖
เข้าใจแล้วครับ
เข้าใจแล้วครับ
เข้าใจแล้วค่ะ