รากฐาน (Foundation) เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของส่วนประกอบ เนื่องมาจากเป็นส่วนที่ช่วยรองรับน้ำหนักแล้วก็ถ่ายโอนแรงทั้งหมดทั้งปวงจากองค์ประกอบข้างบนสู่ชั้นดินหรือชั้นหินข้างล่าง การเลือกประเภทของรากฐานที่เหมาะสมกับลักษณะโครงสร้างและสภาพดินเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยทำให้ส่วนประกอบมีความมั่นคงและยั่งยืนแล้วก็ไม่มีอันตราย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงประเภทของโครงสร้างรองรับ คุณสมบัติ จุดเด่น และก็จุดด้วยของแต่ละจำพวก เพื่อช่วยให้รู้เรื่องรวมทั้งเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะควร
(https://xn--82ca0bu1cyat1crc0a8k9g.com/wp-content/uploads/2024/07/Wash-Boring-vs-Rotary-Drilling-306x205.jpg)
👉🌏✅ประเภทของรากฐาน
รากฐานสามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลัก คือ รากฐานตื้น (Shallow Foundation) และก็ฐานรากลึก (Deep Foundation) โดยทั้งสองแบบมีความต่างกันในด้านขององค์ประกอบ การออกแบบ และก็การปรับใช้
1. โครงสร้างรองรับตื้น (Shallow Foundation)
ฐานรากตื้นเป็นรากฐานที่วางอยู่ใกล้กับผิวดิน และก็เหมาะสำหรับส่วนประกอบที่น้ำหนักไม่มากมายหรือภาวะดินมีความแข็งแรงพอเพียง รากฐานชนิดนี้ได้รับความนิยมใช้ในส่วนประกอบทั่วไป ดังเช่น ที่อยู่อาศัย ตึกขนาดเล็ก รวมทั้งงานก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน
-------------------------------------------------------------
เสนอบริการ เจาะสํารวจดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ เจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรม ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website: เจาะสํารวจดิน (https://groups.google.com/g/OKX168/c/Ey4mC1FsqK0)
👉 Map: เส้นทาง (https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97+%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97+%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA+%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94/@13.7902491,100.8023117,20z/data=!4m6!3m5!1s0x311d65ebcb9daa09:0xd54db9a93b473980!8m2!3d13.7902458!4d100.8023299!16s%2Fg%2F11h7b1b_m2?entry=ttu&g_ep=EgoyMDI1MDQxNi4xIKXMDSoASAFQAw%3D%3D)
-------------------------------------------------------------
แบบอย่างของฐานรากตื้น
-ฐานรากแผ่ (Spread Footing): เป็นโครงสร้างรองรับที่มีการกระจายน้ำหนักของโครงสร้างในพื้นที่กว้าง เหมาะสำหรับตึกที่มีคานและเสาสร้างบนผิวที่แข็งแรง
-ฐานรากแถบ (Strip Footing): ใช้สำหรับรองรับกำแพงที่มีน้ำหนักค่อยหรือโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นแถวยาว
-ฐานรากแผ่น (Mat Foundation): ใช้สำหรับองค์ประกอบที่อยากได้กระจายน้ำหนักในพื้นที่ขนาดใหญ่ ตัวอย่างเช่น อาคารสูงในพื้นที่ดินอ่อน
จุดเด่นของรากฐานตื้น
-ใช้งบประมาณน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างรองรับลึก
-ก่อสร้างได้ง่ายและก็เร็ว
-เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ดินมีความแข็งแรง
จุดอ่อนของฐานรากตื้น
-ไม่เหมาะสมสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการเปลี่ยนแปลงภาวะ
-ไม่สามารถรองรับโครงสร้างที่มีน้ำหนักมากได้
2. โครงสร้างรองรับลึก (Deep Foundation)
โครงสร้างรองรับลึกถูกวางแบบมาเพื่อกระจายน้ำหนักขององค์ประกอบไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงอยู่ลึกใต้ผิว เหมาะกับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินมีความอ่อนตัวสูง
แบบอย่างของโครงสร้างรองรับลึก
-เสาเข็มตอก (Driven Pile): เป็นเสาเข็มที่ถูกตอกลงดินเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่
-เสาเข็มเจาะ (Bored Pile): เป็นเสาเข็มที่เจาะดินและก็เทคอนกรีตลงไป เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะใช้เสาเข็มตอกได้
-รากฐานเสาเข็มลอย (Floating Foundation): ใช้ในโครงสร้างที่ต้องการกระจัดกระจายน้ำหนักในพื้นที่ที่มีการยุบ
จุดเด่นของรากฐานลึก
-สามารถรองรับน้ำหนักของโครงสร้างขนาดใหญ่ได้
-เหมาะสำหรับพื้นที่ดินอ่อนหรือดินที่มีการยุบ
-เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืนให้กับส่วนประกอบในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง
จุดด้วยของฐานรากลึก
-รายจ่ายสูงยิ่งกว่าฐานรากตื้น
-ใช้เวลาและก็วิธีเฉพาะสำหรับเพื่อการก่อสร้าง
-จำเป็นต้องอาศัยการสำรวจดินอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันปัญหาที่บางทีอาจเกิดขึ้น
🌏📌🦖การเลือกโครงสร้างรองรับที่สมควร
การเลือกจำพวกของโครงสร้างรองรับขึ้นกับหลายเหตุ ดังเช่นว่า น้ำหนักของโครงสร้าง ภาวะดิน และก็สภาพแวดล้อม การสำรวจดิน (Soil Investigation) เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินรวมทั้งเลือกรากฐานได้อย่างเหมาะควร โดยกรรมวิธีเลือกมีดังนี้:
การคาดการณ์น้ำหนักองค์ประกอบ:
จะต้องคิดถึงน้ำหนักของส่วนประกอบและก็การใช้แรงงาน ดังเช่นว่า อาคารอยู่อาศัย โรงงาน หรือสะพาน
การวิเคราะห์ภาวะดิน:
กระทำเจาะตรวจสอบดินรวมทั้งทดลองคุณสมบัติของดิน อย่างเช่น ความแน่น ความแข็งแรง และก็การซึมผ่านของน้ำ
สภาพแวดล้อม:
พิจารณาต้นเหตุที่บางทีอาจมีผลต่อรากฐาน เป็นต้นว่า แรงสั่น น้ำหลาก หรือดินถล่ม
ความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ:
เลือกโครงสร้างรองรับที่สามารถตอบสนองความต้องการและก็งบประมาณ
✅🎯📢แบบอย่างการใช้แรงงานในการก่อสร้าง
ที่พัก:
ใช้รากฐานแผ่หรือรากฐานแถบ เนื่องจากน้ำหนักของโครงสร้างไม่มาก และสภาพดินมีความแข็งแรง
อาคารสูง:
ใช้เสาเข็มเจาะหรือเสาเข็มตอกเพื่อรองรับน้ำหนักขององค์ประกอบและเพิ่มความมั่นคงและยั่งยืน
สะพาน:
ใช้ฐานรากเสาเข็มลึกเพื่อกระจายน้ำหนักของโครงสร้างไปยังชั้นดินป้อมอาจจะ
โรงงานหรือคลังสินค้า:
ใช้ฐานรากแผ่นหรือเสาเข็มตามลักษณะของน้ำหนักบรรทุกแล้วก็สภาพดิน
✨🌏🦖ผลสรุป
การเลือกชนิดของรากฐานที่เหมาะสมถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการสร้างความยั่งยืนและมั่นคงและก็ความปลอดภัยให้กับส่วนประกอบ ฐานรากตื้นเหมาะสำหรับโครงสร้างขนาดเล็กและก็ดินที่มีความแข็งแรง เวลาที่ฐานรากลึกเหมาะสำหรับส่วนประกอบขนาดใหญ่หรือพื้นที่ที่ดินอ่อน การวิเคราะห์สภาพดินและก็การออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานวิศวกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้โครงการก่อสร้างสำเร็จได้อย่างปลอดภัยแล้วก็ยั่งยืน
แนวทางการทำความรู้ความเข้าใจข้อดีขอเสียของรากฐานแต่ละจำพวกจะช่วยให้สามารถตกลงใจเลือกฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับช่วยลดความเสี่ยงในระยะยาวขององค์ประกอบในอนาคต
Tags :
รับเจาะสํารวจดิน (https://sanukwebboard.com/index.php?topic=6857.0)