• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Lali

#1



หากธุรกิจของคุณเริ่มมีรายได้และผลกำไรสูง ควรมีการจดทะเบียนบริษัทเกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงควร จดทะเบียนบริษัท ? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทมาฝากทุกคนในบทความนี้! 
อยากรู้รายละเอียดการ จดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติม คลิกที่นี่

เมื่อไรควร จดทะเบียนบริษัท


หากกิจการของคุณเริ่มมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) มากกว่า 750,000 บาทขึ้นไป ควรจดทะเบียนบริษัททันที


รายได้ และ อัตราภาษี


การจดทะเบียนบริษัทควรเริ่มทำเมื่อเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) 750,000 บาทขึ้นไป ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิมากเท่านี้ จะเสียภาษีถึง 35% แต่ถ้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะเสียภาษีเงินได้เพียง 20% 

เรียนรู้การคำนวณรายได้ และอัตราภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่


ตัวอย่างการคำนวณรายได้ และ อัตราภาษี แบบนิติบุคคล กับ แบบบุคคลธรรมดา


การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล มีสูตรการคำนวณ คือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ จากนั้นนำกำไรสุทธิที่ได้ มาคิดภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (ทั้งนี้ถ้าหากมีได้กำไร 0 - 300,000 จะได้รับการยกเว้นภาษี 15%)

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้
Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท = กำไรทางบัญชี 325,000 บาท

Step 2: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - รายการปรับปรุงทางภาษี 0 บาท = กำไรทางภาษี 325,000 บาท

Step 3: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - 3 ล้าน = ภาษีที่ต้องชำระ 3,750 บาท

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีวิธีการคำนวณโดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย หากมีรายได้ประจำช่องทางเดียว อัตราภาษีจะเป็นแบบอัตราขั้นบันได ตั้งแต่ 5 – 35%

แบบที่ 2  (รายได้ทุกประเภท - เงินเดือน) x 0.5% ในกรณีที่มีรายได้ช่องทางอื่น นอกจากรายได้ประจำหรือเงินเดือนตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป คิดภาษีแบบเหมา
โดยจะต้องคำนวณภาษีทั้งแบบอัตราขั้นบันได และอัตราเหมา เพื่อนำมาเทียบกันแล้วเลือกยอดภาษีที่ต้องเสีย โดยคิดจากยอดภาษีที่สูงกว่า

หมายเหตุ: หากคำนวณด้วยวิธีคิดแบบเหมาแล้ว มีภาษีที่ต้องเสียทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีในวิธีนี้

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบขั้นบันได จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้

Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ

Step 2: เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีขั้นบันได 30% (รายได้ 2M - 5M ขั้นบันได 30%) = ภาษีที่ต้องจ่าย


ค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบที่มากขึ้น หลัง จดทะเบียนบริษัท



  • การเทียบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทำบัญชี
หากต้องการเทียบค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี ต้องดูว่าในนามบุคคลธรรมดาคุณเสียภาษีสูงสุดเท่าไหร่ในช่วง 5%-35% จากนั้นนำมาเทียบกับค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี

  • การเก็บเอกสาร
1. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่กิจการให้ลูกค้า)
2. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่ได้รับจากคู่ค้า)
3. Bank Statement หรือสมุดบัญชีธนาคาร
4. รายงานสรุปการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (กรณีมีพนักงาน)
5. การใช้บริการจ่ายค่าเช่าจากบริษัท / บุคคลอื่น
6. เอกสารสัญญาทุกชนิด
7. รายงานสินค้าคงเหลือ


ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียด หลังจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกเลย



ข้อดีของการ จดทะเบียนบริษัท รู้ก่อนไม่มีพลาด!

  • จ่ายภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดา
  • ปีไหนธุรกิจขาดทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี
  • มีความน่าเชื่อถือกว่า
  • ขยายธุรกิจได้ง่ายกว่า

หลังจากที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้ว เจ้าของธุรกิจอย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับการทำบัญชีและภาษี โดยพิจารณาเลือกสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์ เราขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่...
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339




#2


สาวๆที่กำลังมองหาตัวช่วยสำคัญในการเมคอัพผิวให้สวยดูเป็นธรรมชาติและลดขั้นตอนในการเตรียมผิว แน่นอนว่าในเวลาที่เร่งรีบ คุชชั่น เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด! ทั้งให้การปกปิด มอบผิวสวยดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังพกพาง่าย สำหรับใครที่เคยใช้แต่รองพื้น หากคุณได้ใช้ คุชชั่นจองแซมมุล แล้วล่ะก็ จะต้องตกหลุมรักคุชชั่นตัวนี้อย่างแน่นอน >< เพราะนอกจากจะสามารถมอบผิวสวยได้ไม่แพ้การใช้รองพื้นปัญหาคราบ วอก หนา โบ๊ะ จะหมดไป เพราะมีหลายสูตรให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของสภาพผิว


สาวก คุชชั่นจองแซมมุล แบบเราจึงมีตัวที่ใช้ซ้ำประจำใจอย่าง Masterclass Radiant Cushion และอัปเดตของใหม่ด้วย Skin Nuder Cover Layer Cushion ที่เป็น Cushion 2022 ตัวใหม่มาแรงที่ฮ็อตสุดๆ สาวกจองแซมมุลต้องมีทั้ง 2 รุ่นแล้วล่ะค่ะ! แล้วคุชชั่นสองรุ่นนี้เหมือนหรือต่างกันยังไง รุ่นไหนเหมาะกับผิวแบบไหน แล้วให้งานผิวออกมาอย่างไรกันนะ?  แจนได้รวบรวมคำตอบของ คุชชั่นจองแซมมุล ทั้งสองรุ่นมาให้ที่นี่แล้วค่ะ ^^

มาดูกันเลยว่า คุชชั่นจองแซมมุล รุ่นไหนปัง!


: คุณสมบัติ :
  • Masterclass Radiant Cushion : คุชชั่นที่มอบการปกปิดให้ผิวแบบ Full Coverage โดยมี Radiant Mool Ampoule ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง พร้อมให้ผลลัพธ์แบบผิวฉ่ำโกลว์แบบสุขภาพดี ไม่เป็นคราบ สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ด้วย SPF 50+ PA+++
  • Skin Nuder Cover Layer Cushion : คุชชั่น Soft Matte โดยเนื้อคุชชั่นจะเป็นแป้งผสมเอสเซนส์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้สัมผัสที่อ่อนโยนกับผิว จึงเป็นสูตรคุมมันแต่ไม่ทำให้ผิวแห้ง อีกทั้งยังบางเบา ปกปิดสูง ติดทนยาวนาน สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ด้วย SPF 50+ PA+++


: เนื้อสัมผัส :
คุชชั่นจองแซมมุล ทั้งสองรุ่นนี้ มีเนื้อสัมผัสละเอียด เกลี่ยง่าย บางเบา แต่ปกปิด แทปแล้วกลืนไปกับผิว แทบไม่ต้องแตะแทปซ้ำหลายครั้ง ผิวก็ดูเรียบเนียน ไม่หนา ไม่หนักหน้า อีกทั้งยังติดทน สามารถให้งานผิวที่ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ โดยที่รู้สึกสบายผิวและไม่แห้งตึงได้ตลอดทั้งวันเลยล่ะค่ะ ><

:  เฉดสี  :
  • Masterclass Radiant Cushion : มี 3 เฉดสี ได้แก่ Ivory, Vanilla และ Sand  (แจนใช้เฉดสี Vanilla จะช่วยทำให้ผิวผ่องขึ้น แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ)
  • Skin Nuder Cover Layer Cushion :  มี 4 เฉดสี ได้แก่ Fair light, N-light, Light และ Medium (แจนใช้เฉดสี Medium ปัจจุบันเฉดสีนี้ใช้แล้วสีจะเข้มกว่าผิวจริงเล็กน้อย เพราะช่วงที่เลือกซื้อผิวคล้ำกว่านี้ค่ะ ><)


: แพ็กเกจจิ้งและพัฟ :
  • Masterclass Radiant Cushion : ตลับดีไซน์ด้วยสีโรสโกลด์เหลือบทอง เมื่อโดนแสงจะมีประกายระยิบระยับ บ่งบอกถึงความฉ่ำโกลว์ของงานผิวที่จะได้จากคุชชั่นรุ่นนี้ ตัวพัฟเป็นพัฟปลายแหลมที่สามารถเก็บรายละเอียดตามซอกมุมของผิวบนใบหน้า ขนาดพัฟพอดีมือ สามารถควบคุมน้ำหนักมือได้ง่ายตามแรงกดของนิ้ว และให้สัมผัสที่นุ่มไม่บาดผิวอีกด้วย
  • Skin Nuder Cover Layer Cushion : ตลับดีไซน์ด้วยสีโทนนู้ด ดูสะอาดตา สไตล์มินิมอล  บริเวณฝามีความเล่นแสง โดยด้านข้างจะเป็นซิลิโคนที่มีผิวสัมผัสแบบด้าน สมกับเป็นคุชชั่นเนื้อแมตต์คุมมันตามแบบฉบับ Cushion 2022 คุชชั่นรุ่นนี้ในตอนเปิดตัวจะมีสติกเกอร์ลวดลายดอกเดซี่มาให้ในกล่อง สำหรับติดประดับตกแต่งเป็นกิมมิค เพิ่มความปุ๊กปิ๊กน่ารักน่าใช้ให้กับแพ็กเกจจิ้งขึ้นไปอีก ตัวพัฟมีลักษณะเป็น Smooth Fit Puff เมื่อแทปลงบนผิวจะช่วยให้เนื้อคุชชั่นจองแซมมุลยึดเกาะผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น


: วิธีใช้ :
การใช้คุชชั่นจองแซมมุลแห่งปี Cushion 2022 ของทั้งสองรุ่นเหมือนกันเลย
โดย "เน้นการใช้พัฟค่อยๆแทปลงบนผิวหน้า"

1. กดพัฟลงบนฟองน้ำให้คุชชั่นจองแซมมุลซึมลงพัฟ
2. นำพัฟมาแตะที่ถาด MIX&MATCH เพื่อควบคุมปริมาณ
3. ค่อยๆแตะ โดยไล่มาตั้งแต่โหนกแก้มลงมาที่คางและโหนกแก้มอีกด้านนึงลงมาที่คางเช่นกัน
4. แทปบริเวณอื่นเพื่อให้สีผิวเนียนเรียบสีสม่ำเสมอ


: คุชชั่นจองแซมมุล รุ่นไหนเหมาะกับใคร? :
  • Masterclass Radiant Cushion : สาวๆที่ชอบงานผิวฉ่ำๆ บอกเลยว่าคุชชั่นจองแซมมุลตลับนี้ตอบโจทย์เป็นที่สุด! เพราะเนื้อคุชชั่นรุ่นนี้มีความฉ่ำโกลว์ เล่นแสง ให้ผิวที่ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ แม้เนื้อคุชชั่นจะบางเบา แต่ให้การปกปิดขั้นสุด เพียงแค่แทปลงบริเวณที่มีปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยแดง เส้นเลือด หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ คุชชั่นจองแซมมุลรุ่นนี้ก็เอาอยู่ แต่สำหรับรอยดำ สิวหัวเปิดหรือริ้วรอยต่างๆ อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนให้ผิว หรือถ้าต้องการปกปิดเฉพาะจุดก็สามารถแตะแทปเพิ่มเฉพาะจุดได้ อีกทั้งเนื้อคุชชั่นยังติดทนยาวนาน สีไม่ดรอประหว่างวันอีกด้วย และสำหรับใครที่มีสภาพผิวแห้งหรือผิวผสมค่อนไปทางแห้งจะต้องถูกใจคุชชั่นจองแซมมุลตลับนี้แน่นอน!
  • Skin Nuder Cover Layer Cushion : ยกให้เป็นลูกรักของสาวๆที่มีผิวมัน ไปจนถึงผิวผสมเลยล่ะค่ะ เพราะคุชชั่นจองแซมมุลตลับนี้สามารถควบคุมมันได้ดี ให้ฟินิชลุคแบบ Semi matte แต่ไม่ทำให้ผิวแห้ง ให้การปกปิดขั้นสุด ไม่ว่าจะรอยสิว กระ รูขุมขนกว้างหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ คุชชั่นรุ่นนี้ก็สามารถปกปิดได้อย่างเรียบเนียน ไม่เป็นคราบ สามารถแต่งไปได้ทุกที่ในสภาพอากาศของเมืองไทย สีไม่ดรอประหว่างวัน และไม่ค่อยติดแมสด้วยค่ะ!


สรุปว่า คุชชั่นจองแซมมุลทั้งสองรุ่นนี้เหมือนกันตรงที่ใช้แล้วปกปิดได้ดี สีไม่ดรอป ติดทนยาวนานอยู่ได้ตลอดทั้งวันโดยที่ผิวไม่แห้ง โดยมีวิธีการใช้หรือขั้นตอนต่างๆที่เหมือนกัน ให้ผลลัพธ์เป็นไปตามคำเคลมของแบรนด์ทั้งสองรุ่นเลย แต่สำหรับใครที่ชอบงานผิวฉ่ำวาว เล่นแสง ดูโกลว์เกาหลีเกาใจ Masterclass Radiant Cushion (ราคา 1,950 บาท) ตอบโจทย์เป็นที่สุด! ส่วนใครที่ชอบงานผิวเนียนเป๊ะ ฟินิชลุคแบบแมตต์ต้องรุ่นนี้เลยค่ะ Skin Nuder Cover Layer Cushion (ราคา 1,500 บาท) ซึ่งราคาต่างกันหลักร้อยแต่มีรีฟิลให้มาทั้งคู่ (ถือว่าคุ้มมากกก เพราะตลับนึงได้ยาวนาน ยิ่งตัว Masterclass Radiant Cushion กว่าจะเปลี่ยนก็ลืมไปแล้วว่าเก็บรีฟิลไว้ที่ไหน ><)

ในส่วนของแพ็กเกจ มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่มีขนาดเหมาะแก่การพกพาทั้งคู่ น้ำหนักเบา หยิบมาใช้ได้สะดวก ไม่ว่าจะแต่งหน้าในวันสบายๆ หรือแต่งหน้าเพื่อออกงานสำคัญ ก็สามารถให้งานผิวที่ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ไม่หนักหน้า ช่วยให้สาวๆสามารถแต่งหน้าได้ทุกวันทุกโอกาส จึงขอยก คุชชั่นจองแซมมุล ให้เป็น Cushion 2022 ที่ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งในปีนี้เลยค่ะ!

สนใจเนื้อหาเต็มอ่านได้ที่ : https://bit.ly/3CrDV70