8 สัญญาณอ่านใจคน ที่คนฉลาดหลักแหลมถูกใจใช้กัน

[luktan1479]

ภาษิตไทยที่ว่า "ทราบหน้าไม่ทราบจิตใจ" ยังคงเป็นความจริงที่แสลงใจเสมอ เพราะเหตุว่าต่อให้คุณสามารถเก็บหลบซ่อนอารมณ์ความรู้สึกได้ลึกสุด ไม่ให้แสดงออกทางสีหน้าท่าทาง

น้ำเสียง หรือ ถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยได้เก่งแค่ไหน แต่ว่าในที่สุดแล้ว ภาษากายที่บ่อยแสดงออกมาแบบไม่รู้ตัว กลับเฉลยคำตอบเรื่องจริงในใจที่คุณพย า ย า มซุกซ่อนไว้อย่างไม่น่าให้อภัย


เพราะว่าผลการวิ จั ย ของมหาวิทย า ลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐ พบแล้วว่า สำหรับในการสื่อส า ร ของคนเราเรานั้น อาศัยการรับทราบแล้วก็ตีความหมายจากคำพูดที่สื่อส า ร ออกมาเพียงแต่ 7% เพียงแค่นั้น ขณะที่อีก 38% มาจากน้ำเสียงที่ใช้ในการกล่าว รวมทั้งอีก 55% มาจากภาษากายที่แสดงออก

ฉะนั้น หากคุณไม่อย า กให้บุคคลอื่นล่วงรู้ความลับที่อยู่ในใจ เผลอรู้เรื่องคุณผิดเพราะภาษากายที่แสดงออกเนื่องจากว่าความคุ้นเคย หรือ อย า กมีแนวทางอ่ า น ภาษากายไว้ประจำตัว ลองไปดูเทคนิคการอ่ า น ดวงใจคนแบบง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งห ม อ มอง ทดลองเริ่มพิจารณา 8 ภาษากายของคู่สนทนามอง

1.ผงกศีรษะถี่เหลือเกิน แม้คุณสังเกตว่าคู่เจรจาก้มศีรษะตอบรับกับสิ่งที่คุณชอบบ่นจนกระทั่งเกินความจำเป็น รู้ไว้เลยว่า โน่นเป็นสัญญาณที่ฟ้องว่า เขา/เธอมิได้เห็นด้วยกับคุณจริงๆแต่กำลังรู้สึกหนักใจไปส า ร พัดว่า คุณจะคิดกับเขายังไง หรือ เขาจะสามารถปฏิบัติตามสิ่งที่คุณบอกได้หรือไม่ต่างหาก


2.ขบขากรรไกรแน่น วิธีง่ายๆสำหรับในการจับสังเกตว่าอีกข้างกำลังรู้สึกหนักใจ หรือ เ ค รี ย ด กับสิ่งที่คุณกำลังเอ๋ยถึงหรือไม่หมายถึงเขามักขบกรรไกรแน่น กระทั่งคอตึง หน้าผากร่น ถ้าเกิดมีลักษณะพวกนี้ รู้เลยว่า ถึงแม้ว่าจะคำบอกเล่าของเขาจะมองชิลเพียงใด แต่ในใจของอีกฝ่ายกลับกำลังว้าวุ่นสุดๆ

3.จับโ ก ห ก ผ่านดวงตา หลายทีที่พวกเรามักจับโ ก ห ก คู่อริจากอาการหลบตา แต่ว่าแนวทางนี้บางทีอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป เพราะเหตุว่าผู้คนจำนวนมากเริ่มจับทางได้ หันมาปกปิดอาการโ ก ห ก ด้วยการไม่ทำเป็นไม่กล้าสู้สายตาอีกต่อไป

ฉะนั้นวิธีจับโ ก ห ก จากดวงตาเลยเปลี่ยนไป จำเป็นต้องหันมาสังเกตว่า ผู้ที่กำลังพย า ย า มประสานสายตาระหว่างเสวนากับคุณนั้นมองตั้งใจเกินไปหรือเปล่า หรือจ้องคุณนานเกิน 10 วินาทีไหม

เพราะเหตุว่ามีการเล่าเรียนแล้วว่า โดยเฉลี่ยคนอเมริกันจะผสานสายตากับคู่สนทนาเพียง 7-10 วินาทีเท่านั้น ดังนั้นถ้าเกิดคุณบังเอิญไปเจอคู่สนทนาที่พย า ย า มสบตากับคุณเป็นเวลานานกว่า 10 วินาที หรือ จนถึงคุณรู้สึกอึดอัด สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า เขา/คุณบางทีอาจกำลังทำใจดีสู้เสือ พย า ย า มปกปิดข้อเท็จจริงบางสิ่งบางอย่างจากคุณอยู่


4.ชูคิ้วสูง มี 3 เพียงแค่ความรู้สึกแค่นั้นที่จะทำให้ส ม อ ง สั่งให้มนุษย์เราเลิกคิ้วสูง อย่างเช่น แปลกใจ กลุ้มใจ แล้วก็ กลัว ดังนั้นแม้คู่สนทนาคุยกายด้วยการเลิกขนคิ้ว ทั้งๆที่หัวข้อที่กำลังเสวนาไม่ได้อยู่ในทั้งยัง 3 หมวดที่กล่าวมา คุณต้องเริ่มทบทวนแล้วว่า เขา/เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

5.เห็นคุณเป็นกระจก อย่าหงุดหงิดถ้าเห็นคู่สนทนามักแสดงภาษากายตามคุณทุกอย่าง เพราะว่าการทำตนเสมือนเป็นกระจกของคุณนั้น เป็นหนึ่งในความประพฤติปฏิบัติที่คนเรามักแสดงออกโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว

เมื่อคิดว่ามีความคล้อยตามอีกข้าง ดังนั้นหากคู่เจรจาแสดงออกแบบงี้ระหว่างที่คุณกำลังชักนำหรือเจรจาบางสิ่งบางอย่าง ยิ้มในใจได้เลยว่า การพูดจาครั้งนี้มีชัยไปกว่าครึ่ง

6.อิริยาบถที่แสดงออกสำคัญกว่าฝีมือ เคยสงสัยมั้ยว่า เพราะอะไรบางบุคคลเพียงแค่วินาทีแรกที่เดินเข้ามาในห้องที่ใช้ในการประชุม ก็เชิญให้ตรึงตราเช่นเดียวกันกับมีพ ลั ง ล่อใจบางอย่าง ในขณะที่อีกคนแค่ก้าวแรกที่เผยตัว

ก็เชิญให้ตัดสินว่าไร้ความสามารถ ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพราะเหตุว่าภาษากายที่เขา/คุณแสดงออก แน่ๆว่า หากคุณเดินด้วยท่าทีเชื่อมั่น อกผ่ายไหล่ผึ่ง ย่อมสะท้อนถึงคาแร็กเตอร์ของผู้นำที่มีความมั่นใจและความเชื่อมั่น

7.กอดอกเป็นนิจ ไขว่ห้างเสมอๆ ถ้าหากเขา/เธอมักพ่วงด้วยอิริยาบถกอดอก หรือ ไขว่ห้าง รู้ไว้เลยว่า ในใจลึกๆของเขากำลัง สร้างกำแพงขึ้นมากีดขวางระหว่างคุณแล้วก็เขาอยู่ หนึ่งในผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ช่วยไขปัญหาภาษากายดังที่กล่าวมาแล้วได้ดิบได้ดี

คือ การเล่าเรียนโดยใช้วิธีบันทึกเทปคู่สนทนาต่อรองจำนวน 2,000 คู่ จนถึงพบว่า คู่เจรจาที่ข้างหนึ่งออกอาการไขว้ขาล้วนจบลงด้วยความล้มเหลวทั้งหมดทั้งปวง

ที่เป็นเช่นนี้ ในเชิงจิ ต วิ ท ย า ชี้แจงว่า การที่มนุษย์เราแสดงท่าทางดังที่กล่าวมาแล้วเป็นการส่งสัญญาณแบบไม่ทันรู้ตัวอย่างหนึ่งว่า เขา/คุณกำลังพย า ย า มกันตนเองจากสิ่งที่อยู่ข้างหน้า


8.ยิ้มจากใจจำต้องไม่แคร์ตีนกา ต่อให้ระทดแค่ไหน คุณก็ยังฉีกยิ้มสู้ได้ แม้กระนั้นดวงตาที่ซึมเซาห ม อ งย า กที่จะปิดบัง หนึ่งในแนวทางพิสูจน์ว่าฝั่งตรงข้ามยิ้มจากจิตใจหรือเปล่า อย่ามองเพียงแค่รอยยิ้มที่ริมฝีปาก แต่ให้มองดูลึกไปทั่วทั้งใบหน้า หากยิ้มแล้ว ปรากฏรอยย่นบนใบหน้า นั่นแหละ ยิ้มจากหัวใจ 100%
คนฉลาด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13487/